โซล่าร์รูฟท็อป ระบบออนกริด (On-Grid System) คืออะไร เหมาะกับใคร ?
โซล่าร์รูฟท็อป ระบบออนกริด (On-Grid System) เป็นระบบที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน โดยทำการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าขนานกันกับระบบสายส่งของการไฟฟ้าตลอดเวลา เพื่อป้อนเข้าสู่ระบบเมนไฟฟ้าภายในอาคาร โดยไม่ต้องติดตั้งแบตเตอรี่สำหรับการสำรองไฟฟ้าที่ในปัจจุบันยังมีราคาสูงอยู่มาก ดังนั้นการติดตั้งระบบแบบออนกริด (On-Grid) จึงเหมาะสำหรับที่พักอาศัย ร้านค้า หรือสำนักงาน ที่มีการใช้กระแสไฟฟ้าในช่วงกลางวัน และสลับไปใช้กระแสไฟฟ้าจากสายส่งของการไฟฟ้าในช่วงกลางคืน
โซล่าร์รูฟท็อป ระบบออนกริด (On-Grid System) ทำงานอย่างไร ?
ระบบจะเริ่มต้นทำงานทันทีโดยอัตโนมัติเมื่อมีแสงอาทิตย์ แผงโซล่าร์จะทำการเปลี่ยนพลังงานจากแสงแดดเป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC current) ส่งไปยังเครื่องแปลงไฟ (อินเวอร์เตอร์) เพื่อแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Current) ที่เป็นมาตรฐานของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปภายในบ้าน จากนั้นจะกระแสไฟฟ้าจะถูกจ่ายเข้าสู่ตู้ควบคุมไฟฟ้าภายในอาคาร (MDB) ก่อนที่กระแสไฟจะถูกจ่ายไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
แล้วถ้าเกิดใช้ไฟมากกว่าที่ระบบโซล่าร์ผลิตไฟได้ในขณะนั้นล่ะ ?
โซล่าร์รูฟท็อป ระบบออนกริด (On-Grid System) เป็นการนำพลังงานไฟฟ้าจากระบบโซล่าร์เซลล์และการไฟฟ้ามาใช้ร่วมกัน ดังนั้นในระหว่างวันที่มีช่วงเวลาที่แสงน้อย เนื่องจากเกิดฝนตก เมฆมาก มีหมอก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบโซล่าร์ผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือใช้ไฟมากเกินกว่าที่ระบบผลิตได้ ระบบจะทำการดึงไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามาช่วยเสริมโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องเป็นปกติ หมดกังวลเรื่องปัญหาไฟตกหรือไฟกระชาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดความเสียหาย
ข้อดีของระบบออนกริด
- สามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพราะระบบจะทำการดีงไฟฟ้าจากสายส่งของการไฟฟ้าเข้ามาเสริมโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่ระบบโซล่าร์ผลิตไฟได้ไม่เพียงพอ
- หากระบบโซล่าร์ผลิตไฟฟ้าได้มากเกินความต้องการ สามารถขายไฟฟ้าคืนให้แก่การไฟฟ้าได้ (กำลังการผลิตไฟฟ้าของระบบ ต้องต่ำกว่า 10 kWh และต้องทำสัญญาซื้อขายกับการไฟฟ้า)
- เนื่องจากอุปกรณ์ของระบบมีไม่มาก และไม่มีแบตเตอรี่ ทำให้มีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าระบบอื่น
ข้อเสียของระบบออนกริด
- ในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าจากสายส่งของการไฟฟ้า (ไฟดับ) ระบบโซล่าร์หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไฟย้อนเข้าสู่สายส่งของการไฟฟ้า ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำการซ่อมแซม
- การติดตั้งระบบอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการปรับปรุงระบบไฟฟ้า เนื่องจากการเชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้าต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่การไฟฟ้ากำหนด
